เกมส์

รวมโปร

รวมรีวิว

ลงขายฟรี

วิธีสั่งซื้อ
ทางลัด
กำลังโหลดหน้าเพจ
intro reward
ธุรกิจพี่น้องคริสตัง
กะรนน่า รีสอร์ท แอนด์ สปา ประสบการณ์พักผ่อนที่คุ้มค่าสวรรค์แห่งการผ่อนคลายริมชายหาด
S-ERUM สบู่เซรัมสารสกัดเขากวางเพื่อดูแลผิวหน้าที่ดีที่สุดกว่า 25 ปี
iizziistudio อิซซี่ สตูดิโอ รับออกแบบเว็บไซต์และกราฟฟิกเพื่อการประชาสัมพันธ์
มานูก้า อพาร์ทเมนต์ ห้องพักราคาประหยัด รามคำแหง 52 ใกล้รถไฟฟ้า
รับสอนภาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติ
Pop Me Crazy ไอศกรีมโฮมเมดกล้วยหอมเคลือบชอคโกแลตเบลเยี่ยม
Leo กราฟฟิคดีไซน์ รับออกแบบงานกราฟฟิค สื่อสิ่งพิมพ์ ทุกประเภท
Larna House บริการสั่งทำเค้กออนไลน์ในแบบที่คุณต้องการ ด้วยประสบการณ์ 20 กว่าปี
ทำไมชาวคาทอลิกจึงเชื่อเรื่องไฟชำระ (Purgatory)

ทำไมชาวคาทอลิกจึงเชื่อเรื่องไฟชำระ (Purgatory)

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2555 เวลา 12:12 น.
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้องด้วยป้ายแทค :

แชร์ 89 แชร์ 89 แชร์ 88

แจ้งรายงานบทความ

ชีวิตคาทอลิก

เราทราบว่าเมื่อคนหนึ่งขโมยทรัพย์สินของอีกคนหนึ่งไปนั้น ไม่พอที่จะได้รับการอภัยโทษสำหรับความเสียใจที่ได้กระทำผิดและสารภาพบาป แต่ยังต้องชดใช้ทรัพย์สินที่ได้ขโมยมาด้วย ดังนั้นจึงต้องกอบกู้ชื่อเสียงของผู้เสียหายกลับคืนมาให้ได้ ในทำนองเดียวกัน ถึงแม้ว่าพระเจ้าทรงอภัยความผิดบาปต่างๆ ของเราแล้วเมื่อเราเป็นทุกข์ถึงบาปด้วยความจริงใจ เรายังติดหนี้พระองค์ ต้อง “ชดใช้” สิ่งที่เราไม่ซื่อสัตย์ที่ได้ละเมิดพระบัญญัติของพระองค์ นี่เรียกว่าโทษชั่วคราวซึ่งตรงข้ามกับโทษตลอดนิรันดร ซึ่งเราสามารถเป็นอิสระได้ด้วยการเป็นทุกข์ถึงบาปด้วยความจริงใจและการไปรับ ศีลอภัยบาป

โทษชั่วคราวจะได้รับการอภัยด้วยการสวดภาวนา การทนทุกข์ และการกระทำกิจการดีในโลกนี้ หรือจะต้องชำระให้บริสุทธิ์ในโลกหน้า ดังนั้น ไฟชำระจึงหมายถึงการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์หลังจากตายไปแล้ว ข้อความเชื่อเรื่องสหพันธ์นักบุญนั้นเป็นความเชื่อที่ว่าวิญญาณทั้งหลายในไฟ ชำระ จะได้รับการช่วยเหลือโดยทางคำภาวนา พระคุณการุณย์ (indulgences) และกิจการดีๆ ของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่

เป็นแนวปฏิบัติในหมู่ชาวยิว ที่จะสวดภาวนาอุทิศให้กับผู้ล่วงลับ การปฏิบัติเช่นนี้ก็กระทำกันในสมัยขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเราและยังรักษา ไว้อยู่จนถึงปัจจุบันในหมู่ชาวยิวออร์โธด๊อก ชาวยิวทั้งหลายยังทำการไว้ทุกข์ให้กับผู้ตายอันเป็นที่รักเป็นเวลาถึงสิบ เอ็ดเดือน ชาวยิวถือว่าเป็นธรรมเนียมที่กำหนดให้เป็นช่วงเวลาแห่งการชำระให้บริสุทธิ์ หลังจากสิ้นใจตายไปแล้ว

แม้ในพระคัมภีร์จะไม่มีการกล่าวถึงไฟชำระ บรรดานักปราชญ์ของพระศาสนจักรได้กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้บ้างซึ่งถือเป็นหลัก ฐานแสดงข้อความเชื่อในเรื่องนี้ หนังสือมัคคาบีฉบับที่สองบทที่ 12 ข้อ 38-46 กล่าวถึงการสวดภาวนาให้กับผู้ตายในสนามรบ และในพันธสัญญาใหม่ มัทธิว 5:26, 12:32 และ 1 โครินธ์ 3:11-15 ก็กล่าวสนับสนุนข้อความเชื่อในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม ธรรมเนียมการถือปฏิบัติของคริสตชนตั้งแต่ศตวรรษแรกๆ นั้น มีการสวดภาวนาอุทิศให้กับผู้ล่วงลับ ซึ่งหมายถึง ความเชื่อที่ว่าจำต้องชำระวิญญาณให้บริสุทธิ์หลังจากความตาย หนังสือพิธีกรรมยุคแรกๆ มีบทภาวนาอุทิศให้กับผู้ล่วงลับ ท่านแตร์ตู-เลียน (ค.ศ. 160-230) กล่าวถึง “การถวายเครื่องบูชาอุทิศให้กับผู้ล่วงลับ นักบุญซีริลแห่งเยรูซาเล็ม (ค.ศ. 315-386) ได้กล่าวถึงการเสนอวิงวอนให้กับบรรดาผู้หลับพักผ่อนไปแล้ว” นักบุญออกัสติน บอกเราไว้ในหนังสือ “คำสารภาพ” เกี่ยวกับคำขอร้องของมารดาที่กำลังสิ้นใจ คือ นักบุญมอนิกา ว่า “สิ่งที่แม่ขอลูกคือ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม ขอให้ลูกระลึกถึงแม่ที่พระแท่นบูชาพระเจ้า” คำขอนี้มีขึ้นในปี ค.ศ. 387
   

ช่วงเวลาการชำระวิญญาณให้บริสุทธิ์หลังจากความตายนั้น มิอาจนับเวลาแบบโลกนี้ หลังความตายเราเข้าสู่ความเป็นจริงแห่งนิรันดรกาล ระบบและแนวคิดปัจจุบันของเรายุติลง หลังจากความตาย
 

ข้อความเชื่อเรื่องไฟชำระนั้นเป็นประเด็นถกเถียงกันระหว่างพระศาสนจักร คาทอลิก กับบรรดาคริสตจักรออร์โธดอกซ์รวมทั้งบรรดาโปรเตสแตนท์ คริสตจักรออร์โธดอกซ์เห็นว่าการชำระวิญญาณให้บริสุทธิ์นั้นเป็นข้อดีที่ช่วย ให้บรรลุถึงสวรรค์ ส่วนคาทอลิกเน้นเรื่องการชำระวิญญาณให้บริสุทธิ์ บรรดานักปฏิรูปโปรเตสแตนท์ในศตวรรษที่ 16  ปฏิเสธถึงความจำเป็นที่จะสวดภาวนาอุทิศให้กับผู้ล่วงลับ จึงปฏิเสธสิ่งที่คริสตจักรตะวันออกและตะวันตก ยึดถือกันมาตามประเพณี
 

สภาสังคายนาวาติกันที่ 2 ยืนยันถึงธรรมเนียมความเชื่อคาทอลิกว่า “สภาสังคายนานี้ขอน้อมรับด้วยศรัทธาภักดีต่อความเชื่ออันน่าเคารพของบรรดา บรรพบุรุษในเรื่องสายสัมพันธ์ชีวิตกับบรรดาพี่น้องผู้บรรลุถึงเกียรติมงคลใน สวรรค์แล้วก็ดี หรือพี่น้องที่ล่วงลับซึ่งยังคงรับการชำระให้บริสุทธิ์อยู่หลังความตาย” (พระศาสนจักร 51)

AllSoulssmall
 

เก็บตกเรื่องราวดีดีจาก http://www.kamsonbkk.com

 

แชร์ 89 แชร์ 89 แชร์ 88
กดขอบคุณพระเจ้ารับ 1 คะแนน

กดชอบเป็นคนแรก
นักเขียน

พ่อครับ พ่อครับ ดูเมฆบนฟ้าสิครับ มันกำลังวิ่งตามเรามาด้วย

หนุ่มสาวคู่นั้นทนกับพฤติกรรมของชายหนุ่มคนนี้ไม่ไหวแล้ว จึงหันมาตวาดกับผู้เป็นพ่อ

ผม คือ ผลงานปั้นของพระเจ้าที่เต็มไปด้วยบาดแผล

ท่ามกลางความทุกข์ยากของชีวิตหนึ่งของผมนั้น ที่แทบจะไม่มีเครื่องมืออะไรมาก แต่ชีว

ผมไม่มีทางทำเช่นนี้เด็ดขาด ต่อให้เงินผม 1 ล้านดอลลาร์

ชายคนนั้นมองมายังคุณแม่เทเรซาด้วยแววตาที่ทุกข์ทรมาน คุณแม่และสมาชิกทุกคนก็รีบเข้

คนที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ เพราะตั้งเป้าไว้ว่าพระเยซูเป็นแค่มนุษย์

พระองค์พอพระทัยคนที่ไม่ต้องเห้นอัศจรรย์แล้วค่อยมาเชื่อ ถ้าคิดแบบคุณ แสดงว่า พระเ

พระเยซูคริสต์ทรงรักษาโรคของผม (นายแทมเว็บมาสเตอร์)

แม้วันนั้นจะไม่มีน้ำตาไหลจากตาผมสักหยด แต่ผมเชื่อมั่นเกิน 100% ว่า พระเยซูคริสต์

กลไกที่พระเจ้าประทานมาให้เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์นัก

ในวัยหนุ่มสาวพวกเราต้องทำงานหนัก มิใช่เพื่อความอยู่รอดเท่านั้น แต่พวกเราต้องการค

เมื่อเราเข้าใจมูลค่าของความรอด เราก็จะเรียนรู้การขอบพระคุณที่แท้จริง

บางครั้งเราก็ทำเหมือนเด็ก ที่กางแขนรับพระพร พระคุณ มากมายจากพระเมตตาของพระเจ้า แ

☆การกลับคืนชีพของพระเยซูคริสต์☆ถ้าไม่เชื่อเรื่องนี้ ความเชื่ออื่นก็ไร้ประโยชน์☆ ตอนที่ 3

ถ้าใครจะฉลาดหาเหตุผลทางสังคมร้อยแปดพันเก้ามายัดให้ ก็ไม่มีอะไรที่มีน้ำหนักพอ นอก

พระเมตตา โลหิต น้ำพุแห่งชีวิต ผู้เจ็บป่วย ใกล้ตาย จงมาหาพระองค์ พระองค์สัญญาที่จะให้ท่านได้รับการบรรเทาและความรอด

พระเมตตาของพระเป็นเจ้า "จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วยให้เข้ามาอยู่ใกล้หัวใจอัน

☆การกลับคืนชีพของพระเยซูคริสต์☆ถ้าไม่เชื่อเรื่องนี้ ความเชื่ออื่นก็ไร้ประโยชน์☆ ตอนที่ 4

ดังนั้นคริสตชนคนใด ทำดีแค่ไหน อ้างว่าเชื่ออย่างไร แต่กลับไม่ยอมเชื่อเรื่องการกลั

เรื่องเกี่ยวข้องจากโซเชียล

facebook-logo-svgrepo-com.svg