หมูเด้ง ฮิปโปแคระ กับ เลาดาโตซี

ศุกร์ , 27 ก.ย. 2567 03:14:37

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้องด้วยป้ายแทค :

แชร์ 309

แชร์ 236

แจ้งรายงานบทความ

ชีวิตคาทอลิก

หมูเด้ง ฮิปโปแคระ และความรับผิดชอบของมนุษย์ในฐานะผู้ดูแลโลกตามพระประสงค์ของพระเจ้า

ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี หมูเด้ง ฮิปโปแคระน้อยกลายเป็นที่รักของผู้คนทั้งในและนอกประเทศ ความน่ารักและความผูกพันระหว่างสัตว์ตัวน้อยกับมนุษย์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว และสร้างกระแสไวรัลในโลกออนไลน์

เบนซ์-อรรถพล Zoo Keeper (คลิกเพื่อดูเรื่องราวของเบนซ์ อรรถพล) ผู้ดูแลหมูเด้ง ไม่ได้ทำเพียงแค่ตามหน้าที่ แต่ด้วยความใส่ใจและความรักที่มีต่อสัตว์ สิ่งที่เบนซ์ทำไม่ใช่เพียงการดูแลเพื่อค่าจ้าง แต่เป็นการเชื่อมโยงระหว่างเขากับธรรมชาติ และ นี่คือ ภาพจำลองเล็ก ๆ ของความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างมนุษย์กับสิ่งสร้างของพระเจ้า

นายแทม ดอทคอม

พระเจ้าทรงสร้างโลกและทุกสรรพสิ่งให้ดำรงอยู่อย่างสมดุล ในปฐมกาล 2:15 กล่าวว่า "พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงทรงนำมนุษย์ไปยังสวนเอเดน เพื่อให้เขาทำงานและดูแลรักษา" นี่เป็นหลักฐานชัดเจนว่าพระเจ้าทรงมอบหมายให้มนุษย์ดูแลโลก ไม่ใช่เพื่อใช้อย่างสิ้นเปลืองหรือทำลาย แต่มนุษย์ต้องปกป้องและรักษาสิ่งสร้างให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ การดูแลหมูเด้งและสัตว์อื่น ๆ ในสวนสัตว์เป็นการแสดงออกถึงการทำตามพระประสงค์นี้

พระสมณสาส์น "เลาดาโตซี" ของพระสันตะปาปาฟรานซิส (คลิกเพื่ออ่านเลาดาโตซีฉบับสรุป) ได้ทรงเน้นย้ำถึงหน้าที่ของมนุษย์ในการดูแลโลก มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาให้เป็นเจ้านายที่ใช้อำนาจในการครอบครองและทำลาย แต่เป็นผู้ดูแลที่ต้องรักษาสมดุลของธรรมชาติ เช่นเดียวกับ เบนซ์ อรรถพล ที่ดูแลหมูเด้ง การใส่ใจสัตว์ตัวเล็ก ๆ นี้ไม่ได้เป็นเพียงการทำงานตามหน้าที่ แต่เป็นการสะท้อนถึงความรักและความใส่ใจในสิ่งสร้างที่พระเจ้าทรงประทานให้

ความสำคัญของการดูแลธรรมชาติ

หมูเด้งไม่ได้เป็นเพียงสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่น่ารัก แต่เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์และความสมดุลในธรรมชาติ พระเจ้าได้ทรงสร้างสัตว์และสรรพสิ่งเพื่อให้ทำหน้าที่ในระบบนิเวศที่ซับซ้อน แต่สมดุลอย่างสมบูรณ์ มนุษย์ถูกเรียกให้เข้ามาเป็นผู้ดูแลระบบนี้ และการที่เราจะทำเช่นนั้นได้สำเร็จ เราต้องมีความรักและความรับผิดชอบอย่างเต็มใจ

ใน สดุดี 24:1 กล่าวว่า "แผ่นดินและสรรพสิ่งในแผ่นดินเป็นของพระเจ้า ทั้งพิภพและบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในนั้น" นี่เป็นการย้ำว่าโลกและทุกสรรพสิ่งเป็นของพระเจ้า และเราทุกคนล้วนแต่เป็นผู้ดูแล เราไม่มีสิทธิ์ที่จะทำลายหรือใช้ทรัพยากรโดยไม่รับผิดชอบ

การดูแลสัตว์ เช่น หมูเด้ง เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ ของหน้าที่ที่มนุษย์มีต่อธรรมชาติอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะในสวนสัตว์หรือในป่า มนุษย์ต้องสำนึกถึงความผูกพันที่มีต่อธรรมชาติ เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลรักษาความงดงามและความสมดุลที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้น

การเสียสละและการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ

เมื่อเรามองไปที่การเสียสละของ Zoo Keeper เช่น เบนซ์-อรรถพล ที่ดูแลหมูเด้ง เราเห็นว่าไม่ใช่ทุกสิ่งสามารถวัดได้ด้วยค่าจ้าง งานที่เต็มไปด้วยความทุ่มเทและความใส่ใจนี้เป็นสัญลักษณ์ของการดูแลธรรมชาติและสัตว์ในเชิงลึก

การที่หมูเด้งกลายเป็นที่รู้จักและรักของนักท่องเที่ยวก็สะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์ทุกคนสามารถมีบทบาทในการดูแลโลกนี้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง หรือ การดูแลสัตว์เล็ก ๆ ให้ปลอดภัยและมีความสุข

นายแทม ดอทคอม

พระคัมภีร์ยังย้ำถึงการเสียสละเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า มัทธิว 6:26 กล่าวว่า "จงดูนกในอากาศเถิด มันไม่หว่าน ไม่เกี่ยว ไม่สะสมไว้ในยุ้งฉาง แต่พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงเลี้ยงดูมันไว้" พระเจ้าย่อมทรงดูแลทุกสรรพสิ่งบนโลก และพระองค์ทรงใช้มนุษย์เป็นผู้ดูแลสิ่งเหล่านี้เช่นกัน

ดังนั้น การที่มนุษย์ใส่ใจดูแลสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็ก ๆ อย่างหมูเด้ง หรือ สัตว์ป่าหายากในธรรมชาติ เป็นการปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าในการรักษาความงดงามและความสมบูรณ์ของโลกนี้

ความผูกพันระหว่างมนุษย์กับสิ่งสร้างของพระเจ้า

ในท้ายที่สุด เรื่องราวของหมูเด้งไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่น่ารักเท่านั้น แต่เป็นภาพสะท้อนของความรับผิดชอบที่มนุษย์มีต่อธรรมชาติ ตามที่พระเจ้าทรงมอบหมาย

พระสมณสาส์น "เลาดาโตซี" สอนเราว่ามนุษย์มีบทบาทสำคัญในการปกป้องโลก และเราทุกคนมีหน้าที่ในการรักษาสิ่งสร้างนี้ให้คงอยู่เป็นมรดกแก่คนรุ่นหลัง

นายแทม ดอทคอม